วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทิน วัน/เดือน/ปี 30 กันยายน 2557 ครั้งที่ 7


   บันทึกอนุทิน


 วิชา การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย


 อาจารย์ผู้สอน  อาจารย์  จินตนา  สุขสำราญ 
             
  วัน/เดือน/ปี   30  กันยายน 2557     ครั้งที่  7
                 
เวลาเข้าสอน  08.00 น.    เวลาเรียน 08.30  น.

เวลาเลิกเรียน   12.20 น.


วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมอยู่ 2  กิจกรรมที่นำมาให้นักศึกษาได้ทำ ดังนี้



 กิจกรรมกังหันกระดาษ


 1 กรรไกร

  2 กระดาษ

ภาพกิจกรรม








     ตัดกระดาษให้เป็นรูปใบพัด โดยให้เพื่อนๆในห้องได้สังเกต ลักษณะการโยนของเพื่อนๆแต่ละคนในการโยนกระดาษ

    เด็กได้ทำสิ่งประดิษฐิ์และค่อยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เช่น การวาดภาพลงไปในกังหันกระดาษ  การระบายสีให้มีสีสันสวยงาม


กิจกรรมนี้สามารถเชื่อมโยงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์  ดังนี้


air   คือ   สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา

wind  คือ  อากาศที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางในแนวราบ เกิดจากการแทนที่ของอากาศ เนื่องจากอากาศใน

บริเวณที่ร้อนจะลอยตัวสูงขึ้น ในขณะที่อากาศบริเวณใกล้เคียงที่อุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่

Weather proof    คือ  การที่เราเอาลูกโป่งหรือไม่ก็ถุงพลาสติกมาเป่าทำให้เกิดอากาศในถุง

ทำให้ถุงหรือลูกโป่งเกิดการพอ งตัวขึ้น 

กิจกรรมที่2 











บทความที่เพื่อนนำเสนอ

1 เรื่อง สะกิดให้ลูกคิดแบบวิทยาศาสตร์

สรุป  คือ  รูปแบบ 5 Es Modal  ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆซึ่ง พ่อ แม่ สามารถนำไปฝึกให้ลูกคิดแบบ  

วิทยาศาสตร์      
  1. Engage     การมีส่วนร่วม
  2. Explore      สำรวจ
  3. Explain      อธิบาย
  4. Elaborate     รายละเอียด
  5. Evaluate       ประเมิน

2  สนุกสนานเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย เรื่องไก่

สรุป การเรียนรู้จากนิทาน จัดกิจกรรม  3 ขั้นตอน

ขั้นตอนแรก  คือเด็กได้ร้องเพลง ไก่  พร้อมทั้งทำท่าทาง ประกอบเพลง อย่างอิสระ

ขั้นที่สอง   ชวนเด็กตั้งคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ในการสืบค้น

ขั้นสุดท้าย  ขั้นสรุป เด็กนำเสนอผลงานจากการสังเกตรูปร่างลักษณะของไก่และเป็ดผ่านการวาดภาพบนกระดาน  เด็กได้รู้ว่าไก่และเป็ดมีรูปร่างลักษณะต่างกัน โดยค้นพบคำตอบด้ายด้วยตนเอง จากการสังเกตและเปรียบเทียบ

3 เรื่อง เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์

สรุป  การสอนวิทยาศาสตร์ตามรูปแบบ 7 ประการที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ได้ผสมผสาน วิธีการสืบเสาะ
หาความรู้ด้วยตนเอง


   1  การคาดหมาย (Expectation)    หมายถึง วัตถุประสงค์กว้างๆ เป็นแนว ความคิดหรือการสร้างภาพกว้างๆ เกี่ยวกับบทเรียนขึ้นมา ครูจะต้องมีความยืดหยุ่นที่จะ ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์นี้ไปตามสถานการณ์

  2  สิ่งล่อใจ (Enticement)
คือ กิจกรรมที่จะสามารถชักชวนให้เด็กๆ สนใจ จะเรียนรู้ อาจจะออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้วีดีโอ การเล่าเรื่องสั้น การจัดตกแต่ง ห้องเรียน การใช้เสียงประกอบ ใช้อารมณ์ขันหรือการสาธิตให้ดู
 
 3  การเข้าร่วมกิจกรรม (Engagement)
ช่วยให้เกิดความเข้าใจใน บทเรียน โดยอาจจะเป็นการนำเสนอหน้าชั้น การสาธิต หรือการทำกิจกรรมร่วมกัน

การอธิบาย (Explanation)
หลังจากที่ได้ช่วยกันพิจารณาวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้จนเกิดความเข้าใจแล้ว ก็จะเป็นช่วงที่นักเรียนจะมีการอภิปรายร่วมกัน ในการอธิบาย แนวความคิดหลักต่างๆ ทั้งครูและนักเรียนอาจเป็นผู้ริเริ่มหัวข้าสนทนาได้ทั้งในกลุ่มเล็กและ กลุ่มใหญ่ แหล่งที่มาของข้อสนทนาก็อาจจะมาได้จากแหล่งต่างๆ

การค้นหา (Exploration)
จะช่วยผลักดันให้นักเรียนพิจารณาความรู้ และประสบการณ์ที่มีอยู่ นำมาเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ของชั้นเรียน การทำกิจกรรมด้วย ตนเอง

การขยายความ (Extension)   เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนนำความรู้ ของตนมาปรับใช้กับสถานการณ์ต่างๆ

 7  หลักฐาน (Evidence)
  เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนสะท้อนความรู้ ความคิดของตนออกมาทางการเขียนที่มิใช่การทำข้อสอบ นักเรียนจะต้องเขียนผลลัพธิ์ของ การทดลองเพื่อฝึกการจัดระบบความคิด และเชื่อมโยงความคิดกับความรู้สึก ประสบการณ์ที่มี และเรามีแนวการเขียนรายงานสั้นๆเรียกว่า ฟอร์ กอล์ฟเฟอร์ (FGOLFeRS) 

4   เรื่องวิทยาศาสตร์ปฐมวัยจำเป็นหรือไม่  

สรุป        การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กและธรรมชาติเป็นสาระหลักสำหรับเด็กปฐมวัยในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยเน้นให้เด็กมีความสนุกกับการเรียน  รู้จักสร้างสรรค์และคิดสร้างสรรค์
                                                                                                  
 สาระวิทยาศาสตร์ที่เด็กเรียนจำแนกเป็น  4  หน่วย
 
                        หน่วยที่  1     การสังเกตโลกรอบตัว
                        หน่วยที่  2     การรับรู้ทางประสาทสัมผัสและการเรียนรู้
                        หน่วยที่  3     รู้ทรงและสิ่งที่เกี่ยวข้อง
                        หน่วยที่  4     การจัดหมู่และการจำแนกประเภท

5   เรื่อง ส่งเสริมกระบวนการคิดสำหรับเด็ก
 
สรุป       ความคิดสร้างสรรค์ เป็นกระบวนการคิดที่เกี่ยวข้องกับการคิดสิ่งใหม่ๆ ซึ่งขัดแย้งกับความคิดเดิมๆ โดยดึงเอาประสบการณ์เก่าๆ ออกมาทั้งหมด และเลือกที่จะสร้างแบบแผนใหม่ๆ ออกมาให้ปรากฏ ซึ่งการจัดแบบแผนของการคิดใหม่นี้เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ความคิดคล่องตัว (Fluency) เป็นความสามารถที่ผลิตความคิดที่นุ่มนวลและรวดเร็วในการแก้ปัญหา และความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) เป็นความสามารถในการค้นพบลักษณะที่มีความหลากหลาย สมองมนุษย์ สามารถคิดเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์กันระหว่างความรู้และประสบการณ์ ทำให้เกิดการต่อยอดความรู้เดิมและการต่อเติมจินตนาการออกไป 


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้  

    สามารถนำกิจกรรมที่อาจารย์สอนในวันนี้ไปปรับใช้ในการสอนเด็ก  ทำให้เด็กเกิดทักษะกระบวนการคิดที่จะประดิษฐ์ สื่อในการเล่นในอนาคตต่อไปได้ค่ะ

ประเมินตนเอง

วันนี้ตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมในห้องเรียน

ประเมินเพื่อน 

เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมในห้องเรียน   

ประเมินอาจารย์

อาจารย์สอนสนุก และก็พานักศึกษาทำกิจกรรมภายในห้องเรียน ในการประดิษฐ์สื่อที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ทำให้เด็ก เข้าใจเนื้อหาในการเรียนคะ























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น